BUS The 1st Concert LIGHT THE WORLD

บทสรุปประสบการณ์สุดพิเศษจากคอนเสิร์ตแรกของวง BUS

14 มีนาคม 2025 IMPACT Arena โซน SC

แนะนำตัว

สวัสดีครับแนะนำตัวก่อนผมชื่อ กั้ง นะครับ เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Thai2Music.Com ซึ่งผมชอบในเรื่องของการดูคอนเสิร์ตอยู่ประมาณนึง หลักๆผมจะชอบดูพวก Production ของคอนเสิร์ต ผมรู้สึกว้าวมากที่ได้ดูคอนเสิร์ตและได้เห็น production ที่อลังการ และศิลปินต่างๆโชว์ Performance ซึ่งเลยคิดว่าอยากทำ Recap นี้ขึ้นมาเป็นคอนเสิร์ตแรกที่เขียนเลยนั้นก็คือ "BUS The 1st Concert LIGHT THE WORLD" ครับ

เกริ่นนิดหน่อย

บางคนอาจ งง เอ๊ะเป็นผู้ชายแล้วทำไมถึงชอบ BUS เบื้องต้นผมติดตามงานของพี่ย้งตั้งแต่นาดาว มาจนถึงตอนนี้ที่เปิดเป็นค่ายเพลงที่ชื่อ TADA ชอบในการทำงานของพี่ย้งและความลงรายละเอียดต่างๆ แต่ก็ได้ติดตามรายการ รายการ "789 Survival" ก็เลยได้รู้จักน้องๆศิลปินและได้ติดตามมาเรื่อยๆถึงพัฒนาการต่างๆ รวมไปถึงตอนที่ได้ Debut ในนาม BUS ก็ได้ติดตามผลงานเพลง MV มาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้น่าจะมีความอลังการแน่นอน ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปดูคอนเสิร์ตนี้ ซึ่งผมเองก็ได้บัตรในวันแรกของคอนเสิร์ต นั้นคือวันที่ 14 มีค ได้โซน SC ครับ

การเดินทาง

ผมทำงานประจำอยู่ซึ่งบัตรที่ได้เป็นวันศุกร์ ก็ต้องขอลางานช่วงบ่าย และต้องกลับบ้านก่อนเพื่อเอากระเป๋า คอมต่างๆเก็บที่บ้านก่อน ถ้าเอาไปที่ IMPACT Arena น่าจะไม่สะดวก ก็เลยต้องแว้นไปที่บ้านก่อน และเดินทางไปที่ IMPACT Arena โดยใช้มอไซต์ Bolt เพื่อให้ทันเวลา ระหว่างทางก็กลัวฝนตกแต่โชคดีที่ไม่มีฝนตกระหว่างเดินทาง

พอถึง IMPACT Arena ระหว่างทางก็จะมี แฟนคลับที่ซื้อป้ายโฆษณาต่างๆ (เดานะครับ) ติดระหว่างทางเยอะมาก จากนั้นพอถึงหน้างาน เวลาประมาณ 16:30 ก็ต้องรีบไปเอาบัตรแข็งก่อน เห็นแจ้งว่าคอนเสิร์ตจะเริ่ม 17:00 แต่คิวค่อยคางยาว เพราะเหมือนตอนแรกจุดแรกเป็นด้านนอกแต่เหมือนฝนต่อเลยต้องย้ายไปด้านใน

การเข้างาน

ก็จะมีการตรวจบัตรคอนเสิร์ต และ บัตรประชาชนชื่อต้องตรงกัน จากนั้นก็จะเข้าโซนด้านล่างของ IMPACT Arena ไม่มีเวลาไปเดินดูบูธต่างๆ ต้องเร่งเข้าฮอลล์ให้เร็ว ก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปเพื่อเจอจุดตรวจสิ่งของอากาศค่อนข้างร้อนมาก เพราะฝนน่าจะเพิ่งหยุด และ อบอ้าวมากๆ พอเข้าไปก็หาที่นั่งได้ค่อนข้างเร็วเพราะเคยมาดูคอนเสิร์ตที่นี้บ่อยเลยชินว่าต้องเดินไปทางไหน

นี้คือที่นั่งที่ผมได้นั่งใกล้อยู่นะครับ ไอ้เราก็นึกว่าจะแสดงตรงเวลาที่ไหนได้เลตไปประมาณ 20 นาที แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ไม่เยอะมากเท่าไร

รายละเอียดคอนเสิร์ต

ListShow
- Wristband

คนที่เข้าในดูก็จะได้ Wristband ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มก็จะมี VTR บอกให้ปลดล๊อค เพื่อให้ไฟใน Wristband ถูกควบคุมจาก control ที่อยู่ในคอนเสิร์ต ทำให้ไฟสว่างขึ้นตามเพลงที่เล่น และ ทำให้เห็นว่าแฟนคลับเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ต (อันนี้ผมเฉยๆ เพราะหลายๆคอนก็ใช้ แต่คนที่เพิ่งเคยดูคอนเสิร์ตครั้งแรกน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีและตื่นเต้น) *** ผมอาจจะรีวิวเนิร์ดหน่อย อย่างว่ากันนะครับ ห้าๆๆๆ ***

- VTR

เปิดมาด้วย VTR ซึ่งทำเหมือนหนังเรื่องนึงประมาณเล่าว่า BUS แต่ละคนเป็นผู้มีพลังวิเศษแต่ละด้าน ก็จะถ่าย present แต่ละคนไปเรื่อยๆ ก็จะมีเสียงกริ๊ดจากแฟนคลับแต่ละคนตลอดเวลา แต่ทีนั่งผมนี้ลำโพงก็บังจอดีจริงๆ

ซึ่ง AA ก็ได้ยิงธนูเพื่อส่งสัญญาณให้เพื่อนๆ ได้มารวมตัวกัน

ช่วงแรกของคอนเสิร์ต
เพลงที่ 1: TRANSFORMER (BUS)
Opening

ก่อนเริ่มฉากต่างๆก็จะเรื่อยเข้ามาประกอบฉากเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจมากขึ้น

และ BUS ทั้ง 12 ก็เปิดตัวจากลิฟต์ที่ขึ้นมา

โดยรวมของโชว์ลิฟต์จะเลื่อนขึ้นลงตามจังหวะ ทำให้เวทีดูความความเคลื่อนไหลตลอดเวลา และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ จอทั้ง 2 ข้างสามารถโฟกัสศิลปินที่กำหนดลังท่อนนั้นๆได้อยากแม่นยำมากๆ น่าจะมาน่าการซ้อมเป็นอย่างดี ซึ่งเพลงแรก็จุดพลุแบบบ้าคลั่งกันเลยทีเดียว

เพลงที่ 2: LIAR (BUS)
Performance

BUS ทั้ง 12 คอนก็ลงมาจากลิฟต์เพื่อมา Performance ด้านล่าง โดยฉากจากเพลงแรกก็จะถอยออกไป ก็จะมีเลเซอร์เข้ามาเพิ่มแสงสีมากขึ้น ช่วงดนตรีก็ได้ยินเสียงแฟนชานท์ อีกด้วย และช่วงท้ายเพลงก็จุดพลุแบบบ้าคลั่งอีกรอบ

เพลงที่ 3: กั๊ก (BUS)
Fan Service

เพลงนี้ก็ไม่มีอะไรก็จะเป็นการเต้นตามเตป และก็จะมีให้ ศิลปินเดินมาที่เวทีข้างๆ เรียกได้ว่าเตรียมกล้องถ่ายเกือบไม่ทันได้มาเท่านี้ 5555

จากนั้นศิลปินทั้งหมดก็จะมาโชว์ที่ mini Stage และก็เดินมาข้างเวทีอีก จบเพลงนี้ก็จะเป็นการแนะนำตามสเตบ และ ไล่ไปแต่ละคน พูดคุยเล็กๆน้อยๆ จากนั้นก็ไปเพลงถัดไป

และก็เดินมาข้างเวทีอีกแล้วรอบนี้มืดไปหน่อย

เพลงที่ 4-6: แค่น้องชาย / แค่ไหนแค่นั้น / Smooth Criminal (BUS)

ทั้งสามเพลงนี้ BUS ทั้ง 12 คนร่วมกันแสดงอย่างต่อเนื่อง โดยในเพลง Smooth Criminal ที่ทำให้ผมตกใจคือการเต้นแบบเอนตัว ต้องชอบเวที ที่ออกแบบมาให้มีเหล็กขึ้นจากใต้เวที เพื่อให้ศิลปินทำการล๊อครองเท้าและสามารถทำท่านี้ได้

จากนั้นก็จะเป็น VTR (เพื่อให้ศิลปินไปพักเตรียมตัวหลังจากที่โชว์ติดต่อกันมา)

โชว์ Solo Stage

SOLO STAGE

จากนั้นก็จะเปิดตัวการแสดงโชว์ Solo Stage ของแต่ละคน แสดงถึงเอกลักษณ์และความสามารถที่โดดเด่นของศิลปินทั้ง 12 คน


ฮาร์ทโชว์กีตาร์

ฮาร์ท

Play with Fire

เปิดตัวมาด้วยการโชว์เล่นกีตาร์ไฟฟ้า ที่น่าจะเป็นความถนัดของฮาร์ท โดยโชว์จะมีรูปหัวใจที่แยกเป็น 2 ส่วน ช่วงกลางเพลงจะมีการจุดไฟเผาหัวใจอีกด้วย

กีตาร์ไฟฟ้า ไฟ รูปหัวใจ
คอปเปอร์โชว์เพลงมือปืน

คอปเปอร์

มือปืน

มาในรูปแบบคาวบอย ฉากนั้นตัดเต็มมากๆ และเอฟเฟคที่ใช้ก็จะเป็นระเบิดจุดต่างๆ ตามจังหวะเพลง เรียกได้ว่าจุดไม่กลัวเปลืองเงินกันเลยทีเดียว

คาวบอย เอฟเฟคระเบิด ฉากอลังการ
ภูธัชชัยร้องเพลง

ภูธัชชัย

Writing's On The Wall

เดือดไปเยอะแล้วมาพักด้วยการโชว์พลังเสียงของภูธัชชัย ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ด้านหลังก็จะเป็นเครื่องเป่า เครื่องสี มาแบบจัดเต็มมากๆ โดยจะยกขึ้นลงตามจังหวะ

และช่วงพีคคือการใช้เสียงสูงและเวทีก็ยกขึ้นสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

พลังเสียง เครื่องดนตรีคลาสสิค เวทียกสูง
จินวุคกับรถสปอร์ต

จินวุค

GOOD BOY

เปิดด้วยการ Rap ที่ mini Stage อย่างเท่ห์ ต้องบอกเลยว่าจินวุค เอาอยู่มากๆ ทำให้ทั้งฮอลล์สนุกและโยกตามกันได้อย่างดี

ที่เซอร์ไพร์กว่านั้นคืออยู่ดีๆเพลงก็ตัดจบ และจินวุคก็เดินไปที่เวทีข้างๆ และกลับมาด้วยรถสปอร์ต อย่างเวอร์มาก LED แสง เลเซอร์เข้ากันมากๆ

Rap รถสปอร์ต เลเซอร์
โชว์วงดนตรี

จากนั้นหยุดการ Solo Stage มาเป็น Band กันบ้างซึ่งต้องบอกเลยว่าความสามารถน้องๆ ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ โดยจะมีสมาชิกดังนี้

  • กลอง - ไทย
  • กีตาร์ - ฮาร์ท, เอเอ
  • เบส - จั๋งธีร์
เพลงที่ 11: Numb (อลัน จินวุค ขุนพล มาร์ค)

โชว์วงดนตรีเริ่มด้วยเพลง Numb ที่ทำให้บรรยากาศในฮอลล์เดือดมากๆ ทั้งสี่คนผลัดกันร้องตามท่อนต่างๆได้อย่างลงตัว

เพลงที่ 12: ยาพิษ (คอปเปอร์ ภูธัชชัย เน็กซ์ ภีม)

ต่อด้วยอีกเพลงที่เดือดไม่แพ้กัน ทั้งสี่คนสลับร้องและเต้นอย่างมีพลัง สร้างความสนุกให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี

Solo Stage (ต่อ)

มาร์ค - Number One Girl
มาร์คเล่นเปียโน

เปิดด้วยการเล่นเปียโน โดยโชว์ของมาร์คจะเน้นพลังเสียง และเดินมาที่ mini stage เพื่อเล่นกันวงแหวนที่ลงจากด้านบน

และปิดท้ายด้วยพลุน้ำตกลงซึ่งสวยงามากๆ

เน็กซ์ - เหมือนวิวาห์
เน็กซ์กับผ้าแดง

เปิดด้วยการเดินผ่านคนดูด้วยผ้าสีแดงลูกไม้ที่ปิดตาไว้ โดยโชว์ของเน็กซ์จะมีน้ำตกลงมาที่เวที และเน็กซ์ก็จะโชว์เหมือนการเต้นบัลเล่ต์

และจบด้วยการลงหลุมเวทีไปเลย ทำให้คนดูตกใจไปตามๆกัน

อลัน - Flowers
อลันกับลูกบอลดิสโก้

เปิดด้วยลอยลงมาจากด้านบน พร้อมกับลูกบอลดิสโก้ขนาดใหญ่ โดยโชว์จะไปทางเต้นแบบดิสโก้ และมี mini เวทีที่สามารถเคลื่อนที่ตามจุดต่างๆ

ปิดท้ายด้วยการโปร่งกุหลาบแล้วหายตัวไป

เอเอ - Unbreakable Love
เอเอกับปีก

เปิดด้วยนั่งลงมาจากด้านบนพร้อมปีก ที่พีคคือเอเอเดินมาที่ mini stage และขึ้นไปเล่นกีตาร์ไฟฟ้า และร้องบนวงแหวนที่ลอยไปด้านบน

กลับสู่การแสดงกลุ่ม

พัก Solo Stage อีกครั้งและกลับมาย้อนอดีตกับ 789 Survival ด้วยเพลง LIMIT BREAK และ BLIND SPOT ทำให้ทั้งฮอลล์กลับมาคึกคักอีกครั้ง

เพลงที่ 17: LIMIT BREAK (BUS)

และศิลปินก็ได้ออกมาเต้นเวทีข้างๆแบบใกล้ชิด

เพลงที่ 18: BLIND SPOT (BUS)

Solo Stage สุดท้าย
ขุนพล - Bambi
ขุนพลกับผ้าขาว

เปิดมาด้วยการลอยตัวโดยมีผ้าขาวติดกับตัวศิลปิน และเดินมาที่ mini stage เพื่อโชว์การเต้นบนน้ำ

จั๋งธีร์ - Work
จั๋งธีร์เจ้าพ่อคนรวย

เปิดตัวเป็นเจ้าพ่อคนรวยแบบเท่ห์ๆ และขึ้นสลิงเพื่อลอยและตีลังกากันเลยทีเดียว โดยโชว์จะมีโปร่งเงินที่เป็นภาพจั๋งธีร์

ภีม - นะหน้าทอง
ภีมกับโชว์ลึกลับ

เปิดตัวดนตรีด้วยความลึกลับ มีการดึงผ้าที่อยู่หลังภีมลอยขึ้นแบบเหมือนเวทย์มนต์ โชว์ของภีมการเต้นนั้นไม่ธรรมดา สีหน้า อารมณ์มาเต็ม

ไทย - รักคุณยิ่งกว่าใคร
ไทยแบบลูกทุ่ง

มาแบบที่หลายๆคนน่าจะคิดไม่ถึงด้วยการมาแบบลูกทุ่งกันเลย ซึ่งไทยก็ทำได้ดีทีเดียว ปิดท้ายด้วยตีกลอง และร้องเพลงกลางเวทีที่ยกขึ้นกลางฮอลล์

การแสดงกลุ่มช่วงสุดท้าย

ก็โชว์ครบแล้วกับ Solo Stage แต่ละคนกลับมาที่โชว์รวมอีกครั้ง ด้วยชุดเพลงต่อเนื่องที่สร้างความสนุกไม่หยุด:

  • เพลงที่ 23: Because of You, I Shine สร้างอารมณ์
  • เพลงที่ 24: BOW WOW (เพลงใหม่ล่าสุด) แฟนชานท์
  • เพลงที่ 25: เฟี้ยว สนุก
  • เพลงที่ 26: ดอกไม้ที่รอฝน เพลงช้า
  • เพลงที่ 27: Espresso ท่าเต้นเอกลักษณ์
  • เพลงที่ 28: Baby ฮิต
  • เพลงที่ 29: i need somebody (อยากขอสักคน) ชิลล์
  • เพลงที่ 30: Too Much So Much Very Much สนุก
  • เพลงที่ 31: WATCH YOUR STEP เต้น
  • เพลงที่ 32: สุขสันต์วันคิดถึง (Happily Missing You) ความรู้สึก
  • เพลงที่ 33: ภาพเรา (Good Quality Picture) ซึ้ง
บทส่งท้าย

และปิดท้ายด้วยสองเพลงสุดท้าย:

เพลงที่ 34-35: ROAD TRIP & ฟีลลิ่งแบบว่าอู้วว! (Feeling Bab Wa Ooh!)

เรียกได้ว่า 2 เพลงสุดท้ายคือแต่ละคนซนมาก วิ่งรอบเวทีกันสนุกสนาน เซอร์วิสแฟนคลับแบบเต็มที่ แต่ก็จบคอนเสิร์ตด้วยความสนุกแบบสมบูรณ์

สรุป

แสง สี เสียง

ถือว่า ok ครับแต่ละเพลงแต่ละซีนที่สร้างขึ้นมาส่งเสริมศิลปินได้ดีมากๆครับ

ศิลปิน

นี้เซอร์ไพร์โชว์เดี่ยวของแต่ละคนจริงๆ ทุกๆคนเก่งมาก และเก่งในด้านที่ไม่ค่อยซ้ำกันด้วยครับ

โชว์

การออกแบบโชว์แต่ละเพลงดูมีความตั้งใจทุกๆโชว์ให้มีความใหม่ ไม่ซ้ำเดิมๆ และมีการดูอารมณ์คนสลับเรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อ

โดยรวมชอบครับ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปดูอีกครับ

วันนี่ก็ขอจบการ Recap เพียงเท่านี้ ผิดพลาดอะไรก็ต้องขออภัยครับ เป็นการ recap ครั้งแรก 555 ไม่รู้จะครั้งสุดท้ายไหม ต้องรอดูไปเรื่องๆนะครับ